เครื่องซีลถุง

เครื่องซีลถุง
เครื่องซีลถุง ซีลง่ายปิดแน่นถนอมอาหารคงความอร่อยได้ยาวนาน

วันอังคารที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2559

ดราม่าร้อนแรง กีฟ เกรซ จนถึงกับ พอร์ช ต้องลงมือโพสต์ใส่แบบนี้

กีฟ เกรซ

      เป็นกระแสขึ้นมาอีกครั้ง หลังทางนักแสดงสาว กีฟ อรลีฬห์ ออกมาประกาศไม่นับญาติ!! ตัดขาดพี่น้องกับสาว เกรซ แฟนสาวของพระเอกหนุ่ม พอร์ช ศรัณย์ นั่นเอง ล่าสุดทางหนุ่มพอร์ชโพสต์คำคม “คนฉลาด ไม่ใช่แค่..ฉลาดพูดเท่านั้น ต้องรู้จัก นิ่งอย่างมีสติ ให้เป็นด้วย ต้องรู้ในสิ่งที่ไม่ควรพูด ให้มากยิ่งกว่าสิ่งที่ควรพูด” ไม่วายถูกโยงเป็นประเด็นอีกตามเคย ส่วนโพสต์นี้จะเกี่ยวข้องกับการให้สัมภาษณ์ของสาวกีฟจริงหรือไม่นั้น รอสอบถามจากปากของหนุ่มพอร์ชเองดีกว่า อย่างเพิ่งคิดกันไปไกลจ่ะ...

     สำหรับดาราสาว กีฟ อรลีฬห์ ได้ออกมาเปิดใจวานนี้(5 ก.ย.) ที่งานบวงสรวงละครหลังข่าว 2 เรื่อง 2 รส “หักลิ้นช้าง” และ “เรือนพยอม” ณ ตลาดน้ำสำเพ็ง 2 สาธร-กัลปพฤกษ์ รายละเอียดมีดังนี้

กีฟ เกรซ

ล่าสุดเห็นเปลี่ยนทั้งชื่อและนามสกุลเลย?

    “ใช่ค่ะ เหตุผลที่เปลี่ยนก็สืบเนื่องจากกีฟต้องเปลี่ยนนามสกุล เพราะนามสกุลเดิมในศาสตร์ตัวเลขมันไม่ดี บวกกับช่วงที่ผ่านมากีฟป่วยหนักมากๆ จนสุดท้ายกีฟก็เลยคุยกับพ่อว่าเปลี่ยนดีไหม ซึ่งคุณพ่อกีฟท่านก็ค่อนข้างเป็นคนหัวสมัยใหม่และสนใจเรื่องนี้อยู่แล้ว เราก็เลยไปช่วยกันเลือกนามสกุล แต่พอเลือกได้ปุ๊บปรากฏว่าชื่อเดิมมันใช้ไม่ได้อีกเพราะค่าเลขที่บวกกันมันได้ค่าเลขไม่ดี ดังนั้นมันจึงจำเป็นต้องเปลี่ยนชื่อจริงด้วย”

ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่เลยไหม?

    “ใหญ่ค่ะ แต่สำหรับคนไทยที่หัวโบราณนะ เพราะบางคนอาจจะมองว่ามันเป็นนามสกุลบรรพบุรุษเราจะเปลี่ยนได้ไง แต่อย่างที่บอกคุณพ่อกีฟเขามีความสนใจเรื่องนี้อยู่แล้ว แถมท่านยังบอกอีกว่านามสกุลเก่าไม่ดีจริงๆ เราก็เลยไปเลือกกันดู เลือกตามที่คุณพ่อชอบ และปลายปีนี้คุณพ่อก็จะไปเปลี่ยนค่ะ ส่วนคนอื่นในครอบครัวอันนี้กีฟยังไม่ทราบ”

กีฟ เกรซ
พอร์ช - เกรซ

คนมองว่าเปลี่ยนเพราะไม่อยากใช้นามสกุลร่วมกับน้องสาว?

    “ไม่น่าเกี่ยวหรอกค่ะ เพราะว่าไม่ได้ส่งผลอะไรกับชีวิตกีฟมากขนาดนั้น ไม่ได้มีความสำคัญเพียงพอที่จะให้กีฟเปลี่ยนเพื่อใครสักคน อีกอย่างกีฟเองก็เปลี่ยนเพื่อตัวเองด้วย”

สาเหตุที่เราตัดสินใจเปลี่ยนคืออะไร?

    “เรื่องสุขภาพค่ะ คือช่วงก่อนหน้านี้ที่กีฟป่วยหนักมันคือหนักมากจริงๆ แต่ว่าตอนนี้ถือว่าดีขึ้นมาประมาณ 95 เปอร์เซ็นต์แล้ว ส่วนอีก 5 เปอร์เซ็นต์ที่เหลือ คือกีฟยังต้องกินยาอยู่อีก 2 ปี(ยิ้ม) ถามถึงอาการช่วงที่ป่วยน้ำหนักลดไปเยอะไหม เอ่อ...ก็คือจากที่ตอนแรกกีฟหนัก 57 กิโลกรัม ตอนนี้น้ำหนักกีฟเหลือแค่ 51.5 กิโลกรัมแค่นั้น แถมตอนที่ป่วยถ้าไม่มีเพื่อนทักว่ามือกีฟสั่น กีฟก็มีสิทธิ์หัวใจวายตายได้เลย”

ความสัมพันธ์ของกับน้องสาวเป็นยังไงบ้าง?

    “ไม่พูดคุยค่ะ ไม่นับญาติ ตัดขาดแน่นอน(ยิ้ม) ตัวเขาเองก็ไม่เคยติดต่อกลับมา”

ช่วงหลังตัวเขาเองเปิดตัวกับพอร์ชมากขึ้น?

    “ก็...ไม่ได้ติดตามข่าว และก็ไม่ได้ติดตามไอจีเขาด้วยนะคะ แต่อาจจะทราบบ้างเวลามีเพื่อนมาบอก ส่วนเรื่องที่เขาจะเปิดอะไรแค่ไหนนั้นกีฟไม่ทราบเหมือนกัน”

กีฟ เกรซ

ล่าสุดเห็นว่าเขาได้มีโอกาสเจอกับครอบครัวเราด้วย?

    “ล่าสุดที่เขาให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับคุณแม่... ขอไปค่ะ ขอไปนะแม่ไม่ได้ชวน ถามว่าหนูตึงใส่เขาไหม เอ่อ...อันนี้ตึงไม่ตึงหนูไม่รู้นะคะ แต่ส่วนตัวหนู หนูมองว่าเรื่องบางเรื่องไม่ควรเอามาสัมภาษณ์ อย่างคุณแม่หนูก็โอเคได้มีโอกาสไปทานข้าวใช่ แต่ว่าขอแม่ไป แม่ไม่ได้ชวน เขาขอไป”

เรายังมีอะไรที่รู้สึกห่วงน้องสาวคนนี้อยู่ไหม?

    “ไม่ได้สนใจอะไรแล้วค่ะ คือถ้ากีฟรักใครกีฟรักมาก กีฟห่วงใครกีฟห่วงมาก แต่ถ้าหากมันมีเหตุให้กีฟต้องทิ้ง กีฟก็จะทิ้งเลย ต่อให้มีสายเลือดเดียวกันหรือผูกพันกันมาเป็น 10 ปี มันก็ไม่ช่วยอะไรทั้งนั้น”

จริงๆ แล้วเรื่องพอร์ชยังคงเป็นเรื่องหลักของเรากับน้องหรือเปล่า?

    “ไม่ใช่ค่ะ อย่างครั้งล่าสุดหนูแทบจะไม่ได้ให้สัมภาษณ์ถึงเขาเลยนะคะ แต่เรื่องนี้มันเป็นเรื่องนิสัยส่วนตัวของเด็กคนนั้นค่ะ”

ถือว่ารุนแรงจนต้องตัดความเป็นพี่เป็นน้องกันไปเลย?

    “ก็...สิ่งที่เขาทำมันรุนแรงกับสภาพจิตใจหนูเหมือนกันนะ และหนูเคยให้โอกาสคน ซึ่งกับคนนี้หนูเคยให้แล้วครั้งหนึ่ง และครั้งหนึ่งมันก็เพียงพอกับการที่จะให้โอกาสใครก็ตาม”

จริงๆ ช่วงที่ผ่านมาเขาเคยโทรมาหาหรือบอกกับเราบ้างไหมว่าอยากปรับความเข้าใจเพราะถึงยังไงก็เป็นพี่น้อง?

    “ไม่ค่ะ ไม่ได้เจอกันเลย ไม่น่าจะคิดได้”

เรื่องที่อยู่ล่ะ ตอนนี้เกรซเขาย้ายออกไปอยู่ข้างนอกหรือยังไง?

    “เขาไปไหนก็ไม่รู้อ่ะค่ะ”

กีฟ เกรซ

กลัวไหมว่าการที่เราตัดสินใจแบบนี้จะทำให้คุณพ่อคุณแม่ลำบากใจ?

    “คงไม่หรอกค่ะ และเอาจริงๆ หนูเป็นคนมีเหตุผลนะ หนูไม่ใช่คนที่ทำอะไรตามอารมณ์ ดังนั้นการที่หนูตัดสินใจจะทำอะไรสักอย่างมันต้องมีสาเหตุให้หนูทำ”

ถ้าหากในอนาคตเราต้องมาเกี่ยวดองเป็นครอบครัวเดียวกันเราจะโอเคไหม?

    “มันไม่ต้องเจอกันก็ได้”

สมมุติว่าน้องสาวเราอยากจะขอโอกาสเข้ามาขอโทษ เราจะยังโอเคอยู่หรือเปล่า?

    “คงไม่ค่ะ ถ้าทำมาขนาดนี้แล้วไม่ต้องหรอก ต่างคนต่างอยู่ก็โอเคแล้ว ก็ดูมีความสุขดี”

ขอบคุณภาพและข้อมูลจากอินสตาแกรม @porshe_saran, @givedrarpdar_s


อ่านข่าว กีฟ เกรซ เพิ่มเติมได้ที่
http://gossipstar.mthai.com/gossip-content/57911

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น